วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

ไปต่อ...ปาร์ก กูเอลล์




ไม่รู้ว่า ที่ขายตั๋วพ่วงระหว่าง สกราดา ฟามีเลีย และปาร์ก กูเอลล์นี่เป็นเพราะมาสเตอร์ใหญ่ของทั้ง 2 แห่งจะยังเป็นรายเดียวกัน คือ ผู้สืบทอดตระกูล "กูเอลล์" หรือเปล่า แต่ก็เอาเหอะ (ชอบคอลัมน์ รู้ไปก็เท่านั้น ในต่วยตูนน่ะ เลยชอบอยากรู้เรื่องที่ไม่รู้จะรู้ไปทำไม แฮ่ๆๆ)

มาโง่กันต่อดีก่า...

พอออกจากสกราดา ฟามีเลีย ที่เราเที่ยวชมรอบๆ รวมทั้งโรงเรียนเกาดี้ และพิพิธภัณฑ์ชั้นใต้ดินแล้ว (แต่ไม่ขึ้นลิฟต์ไปข้างบน เพราะคิวยาวมาก ต้องรอราว 2 ชั่วโมง แถมเสียเงินเพิ่มอีก 2 ยูโร = 100 บาทโดยประมาณ คนรอนี่ก็บ้าเข้าขั้น) เป้าหมายต่อไปของเราอยู่ที่ ปาร์ก กูเอลล์ -- แต่เอ... จะไปยังไงน้าาาาา

สงสัยต้องพึ่งศูนย์ท่องเที่ยวอีกรอบ แต่นั่นหมายถึงเราดันเดินวนรอบสกราดา ฟามีเลียอีกประมาณ 2 รอบ ถึงรู้ว่า มันอยู่ตรงหน้านี่เอง 55

เรามุดลงเมโทรอีกครั้ง ก่อนจะมาโผล่ใกล้ๆ และลัดเลาะมายังทางขึ้นที่ดูหรูหราอลังการด้วยการมีบันไดเลื่อน! แต่อยากจะบอกว่า บันไดเลื่อน 3-4 ช่วงที่เราเห็นเป็นเพียงภาพลวงตาครับท่านผู้ชม เพราะเรายังต้องปีนไปยังปาร์กกูเอลอย่างหอบแฮ่ก พร้อมทั้งจินตนาการไม่ออกว่า ขาลงตูจะเดินยังไง ข้อจะเสื่อมมั้ยนี่

เปลี่ยนบรรยากาศมาเล่าเรื่องปาร์กกันดีก่า จะได้ลืมความเมื่อยในการปีนอันโหดร้าย

ปาร์ก น่าจะเป็นสวนนั่นเอง ที่มีท่านเคาน์อูเอเซบี กูเอลล์ ผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ของพี่เกาดี้เป็นต้นคิด หะแรกรู้สึกจะสร้า้งเป็นหมู่บ้านสุดหรูหราในสวน ซึ่งมีทั้งสวนหินและต้นไม้ ออกแบบโดยใครคงไม่ต้องสาธยาย แต่ทว่า กลับขายไม่ออก ทั้งๆ ที่บ้านหลายหลังในสวนอันมหึมาแห่งนี้น่ารัก เหมือนหมู่บ้านในเทพนิยาย

บ้านหลังหนึ่งในนี้ จึงตกเป็นสมบัติของพี่เกาดี้ และตอนนี้ก็กลายเป็นพิพิธภัณฑ์โชว์ความเป็นอยู่ และผลงานแสนพิสดารไม่ซ้ำใครของอันโตนิโอ เกาดี้

แค่ทางเข้าของปาร์ก กูเอลล์ก็แสนตระการตา (เราเดินเข้ามาทางด้านหลัง ย้อนศรมาด้านหน้า) ด้วยบ้านขนมปัง 2 หลังสุดน่ารัก บันไดสเปนที่ทอดสูงขึ้นไปดูไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วยลวดลายและสีสันของโมเสกที่พี่เกาดี้ออกแบบ

ที่ป๊อปปูลาร์สุดๆ เห็นจะเป็นพี่จิ้งเหลนยักษ์ประดับโมเสก เห็นภาษาอังกฤษเขียนว่าเป็น dragon ซึ่งถ่ายรูปไม่ได้เลย เพราะถูกรุมทึ้ง (ถ่ายรูปคู่) ตลอดเวลา

ป๊อปปูลาร์กว่า เสาพยุงทางเดินรูปทรงหลุดโลก ที่ยังมีโอกาสเปิดโล่งให้ "ตูริสต้า" ได้ถ่ายภาพเดี่ยวกันมั่ง

คนหลั่งไหลมาสกราดา ฟามีเลีย หรือปาร์ก กูเอลล์ ยากจะเปรียบเทียบว่า ที่ไหนเยอะกว่าที่ไหน คิดว่าที่ปาร์กนี่คนเยอะมาก เพราะกว้่างขนาดนั้นยังรู้สึกว่าคนยุ่บยั่บไปหมด

ในย่านท่องเที่ยวของสเปน มักมีคนมานั่งเล่นดนตรี โดยเฉพาะกีตาร์ฟลาเม็งโก ที่ปาร์ก กูเอลล์ นี่ก็มีอยู่หลายเจ้า ฟังดูเพราะเป็นพิเศษ สงสัยเป็นเพราะบรรยากาศงามๆ พาไป

เอ... เพลงอะไรน้าาา ลืมอีกแล้วววววว

หลังพลาดหวังจากการถ่ายรูปคู่กับ dragon หรือ จิ้งเหลนหลากสีลายโมเสก เราก็เลยเดินขึ้นบันไดมายังอาคาร "เสานัก" (ภาษาเหนือแปลว่า เสาเยอะ อิอิ) ซึ่งเป็นโถงทางเดินใต้ลานปูนข้างบนอีกที ซึ่งอย่างที่บอกก็คือ มีคุณพี่ (เคย) หนุ่มสเปนกำลังครวญกีตาร์อยู่ เป็นเพลงคลาสสิกสร้างความเคลิบเคลิ้มราวย้อนไปในอดีต

เพลงอะไรสักอย่าง (ถามป้าจ๋าแล้วไม่ยอมจำ) แต่ทำให้นึกถึงเวลาดูหนังสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ประมาณค่ายกักกันที่ชอบบรรเลงเพลงคลาสสิกอ่ะ -- เพราะจัง แต่ก็ได้เวลาที่จะเดินต่อไปในสวนกูเอลล์อัน "ฟ่างฝาง"

เดินหลงไปหลงมาในที่สุดก็เจอจนได้... ก็บ้านพี่เกาดี้ไงล่ะ ปัดโธ่ ตอนนี้เรียกว่า บ้านพิพิธภัณฑ์เกาดี้ (Casa-Museu Gaudi) ที่รวมรวมผลงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์สุดอลังการยุคโมเดิร์นนิสม์ของพี่แกเอาไว้

ถ้าใครนึกยุคโมเดิร์นนิสม์ในแวดวงศิลปะไม่ออกละก็ ในแวดวงตกแต่งบ้านละง่ายเลย ก็อาร์ตนูโวยังไงล่ะ แต่ละชิ้นงี้ฉวัดเฉวียน ลวดลายโค้งมน อลังการงานสร้าง แบบ นูโว้...นูโวเชียว รับรองว่า ไม่มีใครจะออกแบบได้ประหลาดและสร้างสรรค์ได้เท่าพี่แกเลยล่ะ

ในบ้านยังเก็บส้วมสุดไฮโซ และห้องนอนแสนจะเรียบง่ายของพี่เกาดี้เอาไว้ด้วย ไม่น่าเชื่อว่า คนที่มีความคิดออกแบบเฟอร์นิเจอร์เก๋ สุดพิสดารขนาดนั้น จะมีความเป็นอยู่โค ตะ ระ จะเรียบง่าย (เหมือนโต๊ะทำงานของแกที่สกราดา ฟามีเลีย ที่มีแต่งานกับห่อผ้าใส่กับข้าวแขวนเอาไว้)

เอาละครับท่านผู้ชม ถึงเวลากลับบ้านกันแล้ว ครั้นจะปีนกลับไปทางเก่าก็แสนทดท้อใจจริงๆ ก็เลยเดินออกตรงทางเข้าจริงๆ ของปาร์ก กูเอลล์ ซะงั้น (ทำเป็นเชี่ยวชาญ) ว่าแล้วก็เดินทางตามป้ายบอกทางไปเรื่อยๆ คราวนี้ไม่หลงครับท่านผู้ชม แค่เดิมอ้อมเป็นวงกลมรอบปาร์ก กูเอลล์ในพื้นราบเท่านั้น อิอิ

ก็วันนี้ไม่รีบไปไหนแล้วนี่นา ครึครึ

พอกลับถึงที่พักสิ่งที่คำนวนก่อนนอนไม่ใช่แค่ว่าใช้ตังค์ไปเท่าไหร่ และพรุ่งนี้จะไปเที่ยวไหนกันดี

แต่เป็น... วันนี้เราเดินกันไปกี่กิโล?

อ้อ... บอกแล้วว่า รักบาร์เซโลน่า ม้าก-มาก พรุ่งนี้ยังอยู่บาร์เซ เป้าหมายคือ บ้านบัตโย่ (ไม่ใช่แรพโย่ ไม่ต้องเต้น แฮ่ๆๆ)

(to be continued...)

ไม่มีความคิดเห็น: