วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

เที่ยวโง่ๆ ในบาร์เซโลนา

พี่น้องครับ ... ขอบอกว่า ก่อนจะไปเที่ยวทีไร เป็นต้องปิดต้นฉบับให้หูตูบทุกครั้งไป
จึงไมแปลกเลยที่การไปท่องเที่ยวไกลถึงแดนกระทิงดุ ไม่ได้มีการเตรียมตัวอะไรพิเศษเกินไปกว่าการจัดกระเป๋าเสื้อผ้า่"เผื่อหนาว" หลังจากที่โดนไซโคไว้เยอะว่า หนาวนะเว้ย... ต้องเสื้อขนเป็ดตัวพองจึงจะเอาอยู่ ... บลาๆๆๆ
เอายังไงดีวะตรู อุตส่าห์ลงทุนควักตั้งค์ 380 บาทซื้อเสื้อวอร์มมีฮู้ดมา 1 ตัว (ไม่ใช่แนวเลยขอบอก) โดยกะว่า ถ้าหนาวมั่กๆ เสื้อโค้ตหนังคงจะเอาอยู่
ไปถึงก็โง่เลยครับพี่น้อง หลังจากการรอคอยอันแสนยาวนานถึง 5 ชั่วโมงที่สนามบินน่าเบื่อที่สุดในโลก ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งทำให้เราเมินเงินคนละ 200 ยูโรที่นำมาฟาดศีรษะเหนาะๆ หาก "ยู" จะนั่งรอต่ออีกซัก 2 ชั่วโมง (ไม่ไหวแล้วครับพี่น้อง)
ออสเตรียนแอร์ไลน์ใช้เวลาอีกราว 3 ชั่วโมง เราก็เดินทางถึงกรุงบาร์เซโลนา เมืองหลวงของแคว้นคาตาลัน... พอเหยียบแผ่นดินสเปนปุ๊บ เราก็เปิดกรงปล่อยไก่ปั๊บ เมื่อเดินตามผู้ชายคนหนึ่งมายังเทอร์มินอล A อย่างไม่ดูตาม้าตาเรือ ทะลุเข้าประตูมาถึงสายพานรับกระเป๋า
หันมองข้างขวา เฮ้้ย... ทำไมคนพวกนั้นถึงได้ไปผ่าน ต.ม. เข้ามาล่ะ อาการแพนิก เหงื่อหยด วิตกจริตเริ่มถามหาเราทั้งคู่ และแล้วเราก็พยายามตะเกียกตะกายหาทางออก เพื่อที่จะไปผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของสเปนให้ได้
โอ๊ะโอววว์... เราจะเข้าเมืองผิดกฎหมายหรือเปล่า (วะ)
เดินเลาะไปเลาะมายังไง ก็หาทางออกไปจากโถงนั้นไม่ได้ คล้ายสายน้ำที่ไม่ยอมไหลย้อนกลับ ยังไงยังงั้น
ในที่สุดพวกเราก็รวบรวมความกล้า (อันผลักดันด้วยอาการวิตกจริต) ไปยังสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง
พี่ตำรวจสเปนสุดหล่อก็งงไม่แพ้เรา แกคว้าพาสสปอร์ต 2 เล่มเดินหายไป (ศึกษา) สักพัก จึงออกมาอธิบาย
"ก็ยูแสตมป์เข้าประเทศเชงเก้นมาแล้ว เข้าใจมั้ย ประเทศเชงเก้นมี สเปน ออสเตรีย เยอรมัน ฝรั่งเศส ... (บลาๆๆๆ) ถ้าเข้ามาแล้วยูก็ไม่ต้องมาตรวจที่นี่อีก"
เออ... นั่นนะสิ ไก่เอ๊ยไก่กุ๊กๆ กลับเล้าได้แล้ว
เรื่องราวยังไม่จบลงเท่านั้นพี่น้องเอ๊ย... พอไปถามอินฟอร์เมชัน อีนี้ฉันจะไปยังที่พักได้อย่างไร บาร์เซโลนานับเป็นศูนย์นักท่องเที่ยวที่เริ่ดสุดในสเปนแล้ว แต่การสื่อสารภาษาอังกฤษ ก็ยังเป็น คอมมิวนิเคชัน เบรคดาวน์ อยู่ดี
เจ๊แกบอกให้ไปขึ้นรถเมล์ "ฟรี" ที่ "บริดส์" ฮ่วย ไอ้ บริดส์ ที่ว่านี่มันอีหยังหว่า...
ไปถึงรถเมล์คันแรก จำได้ว่าสาย A1 ผู้คนนอกจากเ้ข้าคิวรอขึ้นรถเมล์แล้ว ยังมีคิวกดซื้อตั๋วอีกด้วย????
อ้าว เจ้คนนั้นบอกว่า ขึ้นฟรี นี่นา
มองเห็นสะพานข้ามถนนอยู่ไกลลิบๆ อ้อ สงสัยพี่เข้าบอกให้้ไปที่สะพาน ... บริดส์ ของเจ้นั่นคือ บริดจ์ ที่แปลว่า สะพาน นั่นเอง! ว้าว - เป้าหมายของเราจึงเป็นสะพานสีขาวอันไกลโพ้น ดูเหมือนชาตินี้จะเดินถึงหรือเปล่าไม่รู้
เดินๆๆๆๆๆๆ เข้าไป ความพยายามอยู่ที่ไหน (ไม่รุ) กลายเป็นความสูญเปล่า เพราะเราหลงเดินเลยไป บริดส์ หรือ บริดจ์ ที่ว่า ก็แค่สะพานเชื่อมตึก 2 หลัง เลยป้าย A1 มาติ๊ดเดียวเอง
อ้าว... อย่างนี้ไม่เรียกว่า บริดจ์ แล้วเรียกอะไรล่ะ -- นั่นอะดิ
แต่ถึงยังไง เราก็นั่งรถเมล์ และรถไฟ ฟรี! ไปยังใจกลางเมืองบาร์เซโลนาได้ล่ะน่า อะโด่เอ๊ย

(to be continued)

ไม่มีความคิดเห็น: