วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

Dear Khun Loong Alcazaba...




ถึงคุณลุงแห่งโอ๊สตาล อัลคาซาบา ณ เมืองกรานาดา

ลุงได้สร้างความประทับจิตประทับใจให้พวกเราม๊าก-มาก แม้เราจะเจอกับนางยักษ์ที่อินฟอร์เมชั่นเคาน์เตอร์ของการ "เรนเฟ" (รถไฟ) แห่งประเทศสเปน เกือบจะรับประทานศีรษะมา เพราะดัน-ดั๊น-ดันไปถามทาง หากรู้ไม่ว่า เจ๊น่ะ ให้ข้อมูลได้แต่เรื่องเกี่ยวกับ "รถไคว" เท่านั้น อย่างอื่น "ชั้นจะไปรู้ได้ไง" (ยักไหล่ด้วย) แม้จะเป็นถนนใจกลางเมืองกรานาดาที่ชั้นอยู่่ ชั้นก็บ่อฮู้บ่หันก้าาาาาา

ก้าวแรกที่เราหาโอ๊สตาลของคุณลุงเจอ กรี๊ดสลบอันแรกคือ ที่นี่มีลิฟต์! ครับท่านผู้ชม ไม่ต้องแบกอย่างทุลักทุเลกันเช่นบาร์เซโลนาอีกแล้ว...

ไปถึงบ้านลุงราวๆ สักแปดโมงเช้า คุณลุงก็รีบจัดการทุกสิ่งอย่างเพื่อให้เราได้เข้าพัก ว่าแล้วก็ยังไม่ถึงเวลาที่แขกรายอื่นเช็คเอาต์ แต่คุณลุงก็ไม่ไล่ให้เรารีบไปไหน แต่กระวีกระวาดหาแผนทีเมืองกรานาดามากาง และพยายามสื่อสารกับเราด้วยภาษาอังกฤษที่ลุงคงไม่ถนัดเท่าไร

คุณลุงออกตัวว่า กรานาดาเป็นเมืองเล็กๆ เดินไม่กี่อึดใจก็ทั่วแล้ว แต่ถ้าจะไปย่านท่องเที่ยว โดยเฉพาะ อะลัห์มบรา นั่งรถไปก็ดีเพราะภูมิประเทศเป็นเชิงเขา

เสร็จแล้วลุงก็เริ่มกระวนกระวายดูเวลา ไอ้พวกเราก็คิดว่า สงสัยลุงคงจะรีบทำธุระปะปังอะไรของแก แต่ในที่สุดคุณลุงก็ว่า ถ้ารีบไปตอนนี้ก็อาจจะยังมีสิทธิ์ได้เข้าไปเที่ยวอะลัห์มบรา

ที่แท้ลุงก็กลัวเราอดเที่ยวน่ะเอง

ครั้นพอลุงรู้ว่า พวกเราจองตั๋วเข้าชมพระราชวังแขกมัวร์เอาไว้วันรุ่งขึ้น ลุงก็เปลี่ยนแผน แนะการทัวร์กรานาดาใน 1 วันให้เราทันที อูว ว้าว

ช่วงเช้าที่เรายังไม่ได้ห้องพัก เราก็เลยออกไปเดินเที่ยวใกล้ๆ ตามแผนลุง เริ่มจากเติมเต็มท้องด้วยพิซซาหน้าชีสสไตล์สเปน ในร้านนั่งสบายสไตล์ฮิปปี้ คนที่นี่น่าปวดเฮดจริงๆ ฟังเพลงฝรั่งอังกฤษ-อเมริกันอยู่แท้ๆ แต่ไม่ยอมสื่อสารภาษาอังกฤษ ด้านความกล้านั้นสู้คนไทยก็ไม่ได้ แม้ไม่รู้ความยังพูดได้ฉอดๆ แกไม่เข้าใจก็เรื่องของแก (ฮา)

อิ่มหนาสำราญ เราก็เริ่มเดินมาเที่ยวย่านถนนกรานเบีย ไปดูโบสถ์คริสต์สมัยศตวรรษที่ 14 กัน ราคาถู้ก-ถูก แค่ 3.5 ยูโรเอง แต่หะแรกก็เสียวๆ ว่าจะมีแค่ห้องๆ เดียวที่มีแท่นบูชาต่างๆ รวมทั้งพระศพของพระนางอิซาเบลลา และฟิลิป เดอะ แฮนด์ซั่มหรือเปล่า

ที่ไหนได้ พอทางเดินออก กลับแสดงงานศิลปะที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนาเอาไว้มากมาย

เดินชมนั่นชมนี่อยู่สักพัก ใกล้เที่ยงเต็มที เราเริ่มคันเนื้อคันตัว (เพราะไม่ได้อาบน้ำตอนกลางคืนจนบัดนี้) และอยากมาม่า! (ไม่ได้หิว แต่อยาก เข้าใจป่ะ) ว่าแล้วเราก็เดินกลับไปโอ๊สตาลก่อนจะเที่ยวตามแผนที่ลุงวาดไว้ (บนแผนที่ที่ให้มาน่ะแหละ) กันต่อ

นอกจากลุงจะให้ยืมปลั๊กต่อฟรีๆ แล้ว หลังจากเราพยายามเช็กน้ำร้อนที่มไ่ม่ยอมร้อน ทำให้เราเกือบจะเฟลเรื่อง(อยาก) มาม่าไปแล้ว เราก็ใจดีสู้เสือ (นี่ขนาดลุงเขาไม่ดุสักหน่อย) จริงๆ แล้วเรียกว่าหน้าด้านไปขอน้ำร้อน โดยนำถ้วยสตาร์บักส์ที่เก็บเอามาจากเมืองที่แล้วไปใส่

ลุงทนเห็นความอเน็จอนาจไม่ได้ ก็เลยต้มน้ำมาให้เสีย 1 เหยือกโตๆ สงสัยมันจะเอามาต้มกาแฟกัน

ที่ไหนได้ ผลออกมาเป็นสตาร์บักส์มาม่า ซู้ด อาหย่อยมากๆ

นี่ขนาดไม่ได้หิวนะ อิอิ

(to be continued...)

1 ความคิดเห็น:

tweaty กล่าวว่า...

ชวนไปดูหนุ่มฝรั่งเศสเต้นฟลาเมงโก น่ารักกิ๊กกิ้วเชีย

http://flamencocrazy.blogspot.com